
หัวข้อข่าว: ครม. อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่ 3
Headline: Cabinet approves economic stimulus package, phase 3
ตั้งแต่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีรับผิดชอบงานทางด้านเศรษฐกิจ ได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมา 2 ครั้งแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยมาตรการหลักๆ ก่อนหน้านี้คือ
- มาตรการครั้งที่ 1 มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่วงเงิน 1.36 แสนล้านบาท
- มาตรการครั้งที่ 2 เป็นมาตรการเพิ่มเงินกองทุนหมู่บ้าน 3.5 หมื่นล้านบาท
รัฐบาลมีความจำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม เพราะประเมินว่าปัญหาภัยแล้งจะส่งผลระทบต่อประชาชน และเศรษฐกิจอย่างรุนแรงยาวนานอีกกว่า 2 เดือนไปจนถึงกลางเดือน พ.ค.นี้ รวมถึงการส่งออกของไทยซึ่งมีสัดส่วนมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 60-70% ของจีดีพี ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกอ่อนแอ ถึงแม้ว่าจะมีการใช้จ่ายภาครัฐเข้ามาช่วย โดยมีการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนทำได้ดีขึ้น แต่ก็มีสัดส่วนเพียง 10% ของจีดีพีเท่านั้น ทำให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ไม่มาก สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งที่ 3 มีมาตรการดังนี้
- การแจกเงินให้แก่ราชการเป็นวงเงินรวม 1,570 ล้านบาท โดยให้แก่ราชการระดับล่าง และกลางที่ไม่มีเงินประจำตำแหน่ง มีอยู่จำนวน 1.57 ล้านคน ซึ่งจะได้เงินคนละประมาณ 1,000 กว่าบาท คาดว่าจะจ่ายเงินให้ได้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายในช่วงวันหยุดยาว เป็นการกระตุ้นการบริโภคให้เกิดความคึกคักทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้เพิ่มเหมือนกับการลดภาษีชอปปิ้งของรัฐบาลในช่วงส่งท้ายปี 2558 ที่ผ่านมา
- กินข้าวนอกบ้าน ลดภาษีไม่เกินหมื่นห้า ครม.กระตุ้นเศรษฐกิจ ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวรับประทานอาหารนอกบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 9-17 เมษายน รวม 9 วัน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร ส่งเสริมกิจกรรมครอบครัวช่วงวันสงกรานต์ โดยนำมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติต่ออายุมาตรการหักลดหย่อนภาษีการท่องเที่ยวในประเทศอีก 1 ปี โดยนำมาหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีได้ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริงไม่เกิน 1.5 หมื่นบาทต่อปี เพื่อส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวและบริการในประเทศ จากเดิมสิ้นสุดสิ้นปี 2558 ที่ผ่านมา ขยายเป็นสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2559 เพื่อนำมายื่นขอรับสิทธิ์ลดหย่อนกับกรมสรรพากรในปี 2560
- มาตรการเติมเงินให้แก่หมู่บ้านรอบใหม่ โดยจะนำเงินในส่วนของเงินตำบลละ 5 ล้านบาท ซึ่งทำสัญญาไม่ทัน 31 มี.ค.2559 นี้ ประมาณ 5,000 ล้านบาท และเงินลงทุนปีงบประมาณ 2559 ที่ก่อหนี้ไม่ทัน 31 มี.ค.นี้ อีกประมาณ 5.73 หมื่นล้านบาท บางส่วนไปให้แก่หมู่บ้านที่มีโครงการพร้อมดำเนินการแล้ว แต่ไม่ได้รับเงินจัดสรรจากมาตรการตำบลละ 5 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ต้องไม่เป็นโครงการที่ซ้ำซ้อนกับโครงการที่จะได้รับจัดสรรเงินกองทุนหมู่บ้านละ 5 แสนบาท วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีเป้าทำสัญญาและเบิกจ่ายให้ได้ภายในสิ้นปีนี้
- โครการบ้านประชารัฐ จะมีการอัดเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ 7 หมื่นล้านบาท โดย 4 หมื่นล้านบาท เป็นการปล่อยให้แก่ผู้ที่ซื้อบ้านในโครงการบ้านประชารัฐ ดำเนินการโดยธนาคารออมสิน และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) แห่งละ 2 หมื่นล้านบาท และอีก 3 หมื่นล้านบาท ปล่อยให้แก่ผู้ประกอบการที่จะก่อสร้างโครงการบ้านประชารัฐ โดยธนาคารออมสิน ธอส. และธนาคารกรุงไทย จะปล่อยกู้แห่งละ 1 หมื่นล้านบาท
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยภัยแล้งทำให้เศรษฐกิจเสียหาย 1.19 แสนล้านบาท จีดีพีหด 0.85% หวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ทั้งบ้านประชารัฐ จ่ายเงินช่วยค่าครองชีพข้าราชการ ช็อปช่วยชาติ จะช่วยดึงจีดีพีให้เพิ่มขึ้น “หากภาครัฐไม่มีมาตรการใดๆ มาช่วยเหลือ หรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ อาจทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในปีนี้อยู่ในระดับ 2.7 - 2.9% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3 - 3.5%”
%%%%%%%%%%
No comments:
Post a Comment